พิมพ์

ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายและการฟื้นฟูทะเลไทย พ.ศ. 2539

               ระเบียบนี้มีบทบัญญัติที่ใช้บังคับเกี่ยวกับกิจกรรมการใช้ทะเลคือ 

               ข้อ 7 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า "คณะกรรมการนโยบายและฟื้นฟูทะเลไทย" เรียกโดยย่อว่า "กฟท." ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายคนหนึ่งหรือหลายคนเป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้อำนายการสำนักงบประมาณ ผู้บัญชาการทหารเรือ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ อธิบดีกรมประมง ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คณบดีคณะประมงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นกรรมการ 

               ให้ผู้อำนวยการ "สฟท." เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้ "กฟท." แต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการตามจำนวนที่จำเป็น 

               ข้อ 8 ให้ กฟท. มีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้ 

               (1) เสนอนโยบาย และแผนการฟื้นฟูทะเลไทยต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ 

               (2) อนุมัติแผนงานหรือโครงการ และให้ความเห็นเกี่ยวกับวงเงินลงทุนของ หน่วยราชการเพื่อดำเนินงานตาม
นโยบายและแผนการฟื้นฟูทะเลไทยตามข้อ 17 

               (3) กำหนดแนวทางการประสานงาน การบริหารและการใช้ประโยชน์พื้นที่ทะเลไทย 

               (4) เป็นศูนย์กลางประสานงานกับคณะกรรมการอื่นที่แต่งตั้งขึ้นตามกฎหมาย หรือตามมติคณะรัฐมนตรี และมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับนโยบายและการฟื้นฟูทะเลไทย 

               (5) เร่งรัด ติดตามและกำกับดูแลการดำเนินการของหน่วยราชการที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเกี่ยวกับการฟื้นฟูทะเลไทย เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความรวดเร็วเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ 

               (6) ควบคุม อำนวยการ ตรวจสอบ และประเมินผลการปฏิบัติงานตามนโยบายและแผนการฟื้นฟูทะเลไทย 

               (7) กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการดำเนินงานสำหรับการบริหารงานของ สฟท. 

               (8) ขอความร่วมมือในการขอยืมตัวบุคคล วัสดุ อุปกรณ์ และครุภัณฑ์ของ หน่วยราชการ เพื่อช่วยการปฏิบัติงานของ กฟท. ได้ตามความจำเป็น 

               (9) ดำเนินการอื่นใดที่จำเป็นเพื่อการฟื้นฟูทะเลไทย 

               ข้อ 12 ให้มีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายและการฟื้นฟูทะเลไทยเรียกโดยย่อว่า "สฟท." เป็นหน่วยราชการภายในสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของ กฟท. และให้มีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้ 

               (1) ประสานกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในการจัดเตรียมแผนงานและโครงการต่างๆ ตามนโยบายและแผนการฟื้นฟูทะเลไทย ตลอดจนการศึกษาวิเคราะห์วิจัยปัญหาและอุปสรรค ที่เกิดขึ้นในการกำหนดนโยบายและแผนการฟื้นฟูทะเลไทย เพื่อเสนอต่อ กฟท. 

               (2) สอดส่อง ดูแล และให้คำแนะนำแก่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน หรือการดำเนินกิจการเพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่ถูกต้องตามระเบียบนี้ 

               (3) ชักชวน อำนวยความสะดวก และประสานงานให้องค์กรเอกชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและแผนการฟื้นฟูทะเลไทย ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ กฟท. กำหนด 

               (4) บริหารแผนงานรวม และประสานการบริหารและการปฏิบัติการตามแผนงานการฟื้นฟูทะเลไทย 

               (5) ติดตาม และเร่งรัดการปฏิบัติงานของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง 

               (6) ปฏิบัติงานและร่วมดำเนินการด้านประชาสัมพันธ์การฟื้นฟูทะเลไทย 

               (7) วิเคราะห์และประเมินผลของการฟื้นฟูทะเลไทย เพื่อเสนอต่อ กฟท. 

               (8) เชิญบุคคลของหน่วยราชการและภาคเอกชน ให้มาชี้แจงหรือส่งข้อมูลหรือสถิติต่าง ๆ ตลอดจนขอความร่วมมือในการยืมตัวบุคคล วัสดุ อุปกรณ์ และครุภัณฑ์ต่างๆ จากหน่วยราชการได้ตามความจำเป็น 

               (9) ปฏิบัติงานหรือดำเนินการอื่นใดตามที่ กฟท. มอบหมาย 

               ข้อ 15 เมื่อคณะรัฐมนตรีอนุมัตินโยบายและแผนการฟื้นฟูทะเลไทยที่ กฟท. เสนอแล้วให้ กฟท. กำหนดแนวทางดำเนินงานให้เป็นไปตามนโยบายและแผนดังกล่าว และถ้าจำเป็นต้องมีการจัดทำแผนงานหรือโครงการเพื่อปฏิบัติตามนโยบายและแผนการฟื้นฟูทะเลไทย ให้ กฟท. กำหนดแนวทางดำเนินงานและกำหนดหน่วยราชการที่จะให้รับผิดชอบปฏิบัติงานดังกล่าวด้วย 

               ข้อ 16 ให้หน่วยราชการที่ กฟท. กำหนดตามข้อ 15 จัดเตรียมแผนงานหรือโครงการสำหรับงานที่จะต้องปฏิบัตินั้นขึ้นโดยประสานงานกับ สฟท. แผนงานหรือโครงการดังกล่าวต้องมีรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายการดำเนินงานแต่ละขั้นตอน กำลังคน วัสดุ อุปกรณ์ และทรัพยากรการบริหาร ตลอดจนวงเงินรายจ่าย
เมื่อหน่วยราชการจัดเตรียมแผนงานหรือโครงการขึ้นแล้ว ให้ สฟท. รวบรวมและวิเคราะห์เพื่อนำเสนอ กฟท. เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป 

               ข้อ 17 เมื่อ กฟท. อนุมัติแผนงานหรือโครงการใดแล้ว ให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นไปตามนั้นโดยไม่ชักช้า 

               ในกรณีที่ต้องมีการใช้เงินกู้เงินบาทสมทบ หรือความช่วยเหลือจากต่างประเทศให้ กฟท. แจ้งไปยังกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และกรมวิเทศสหการเพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนด้านการเงินให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่กำหนดตามความเหมาะสม 

               ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามแผนงานหรือโครงการใดโดยเร่งด่วน กฟท. อาจนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติให้จัดสรรเงินงบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการนั้นเป็นกรณีพิเศษได้ 

               ข้อ 18 ถ้าหน่วยราชการแห่งใดที่ กฟท. กำหนดตามข้อ 15 ไม่สามารถรับผิดชอบงานที่จะให้ปฏิบัตินั้นได้ หรือไม่เห็นด้วยกับ กฟท. หรือ สฟท. ในเรื่องหนึ่งเรื่องใดตามแผนงานหรือโครงการที่จะรับมาปฏิบัติให้หน่วยงานราชการดังกล่าวรายงานปัญหาอุปสรรคและความเห็นให้ กฟท. ทราบเพื่อพิจารณา 

               ในกรณีที่ กฟท. ได้พิจารณารายงานของหน่วยราชการตามวรรคหนึ่งแล้วมีมติเป็นเช่นใดให้หน่วยราชการปฏิบัติไปตามนั้น แต่ถ้าหน่วยราชการนั้นยังไม่เห็นชอบกับมติของ กฟท. หน่วยราชการดังกล่าวอาจเสนอให้คณะรัฐมนตรีชี้ขาดได้แต่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งมติของ กฟท. หากมิได้มีการดำเนินการเสนอคณะรัฐมนตรีภายในกำหนดเวลาดังกล่าวให้เป็นอันยุติตามมติของ กฟท. 

               ข้อ 19 ให้หน่วยราชการที่รับผิดชอบแผนงานหรือโครงการที่ กฟท. อนุมัติแจ้งชื่อผู้รับผิดชอบแผนงานหรือโครงการและเจ้าหน้าที่ตำแหน่งสำคัญที่จะมอบหมายให้ปฏิบัติงานตามแผนงานหรือโครงการต่อ สฟท. เพื่อการประสานงานระหว่างหน่วยปฏิบัติ 

               ข้อ 20 ให้ผู้รับผิดชอบแผนงานหรือโครงการจัดให้มีแผนปฏิบัติการที่เหมาะสมเพื่อดำเนินงานตามแผนงานหรือโครงการให้เป็นไปตามเป้าหมายและมีคุณภาพ ทบทวนค่าใช้สอยและการใช้วัสดุอุปกรณ์ และทรัพยากรการบริหารเป็นประจำตามควรแก่กรณี และทำรายงานความก้าวหน้าของแผนงานหรือโครงการเป็นระยะ ๆ
รูปแบบของรายงานความก้าวหน้าของแผนงานหรือโครงการให้เป็นไปตามที่ กฟท.กำหนด
ในกรณีที่มีปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการดำเนินงานตามแผนงานหรือโครงการให้ผู้รับผิดชอบแผนงานหรือโครงการแจ้งให้ สฟท. ทราบและประสานงานกับ สฟท. เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว 

               ข้อ 21 ให้หัวหน้าหน่วยงานราชการรับผิดชอบอำนวยการให้งานตามแผนงานหรือโครงการที่รับมอบหมายดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย และสอดคล้องกับนโยบายและแผนการฟื้นฟูทะเลไทย 

               ข้อ 22 ให้หน่วยราชการที่รับผิดชอบแผนงานหรือโครงการจัดให้มีระบบการควบคุม ตรวจสอบ และติดตามการดำเนินงานตามแผนงานหรือโครงการ และส่งรายงานความก้าวหน้าของแผนงานหรือโครงการให้ สฟท. เพื่อรายงานต่อ กฟท. ตามระยะเวลาที่ กฟท. กำหนด 

               ข้อ 23 ให้ สฟท. ติดตามความก้าวหน้าของแผนงานหรือโครงการต่าง ๆ ในการฟื้นฟูทะเลไทยกับให้พิจารณา วิเคราะห์ และประเมินผลความก้าวหน้าของงานเสนอต่อ กฟท. เพื่อทราบหรือเพื่อพิจารณาตามควรแก่กรณี 

               ข้อ 24 ในกรณีที่ กฟท. ได้มีมติให้มีการดำเนินงานต่าง ๆ เกี่ยวกับการประสานงาน การบริหารหรือการใช้ประโยชน์พื้นที่ทะเลไทย เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนการฟื้นฟูทะเลไทย ให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมติของ กฟท. ในกรณีที่หน่วยราชการใดมีปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติตามมติ กฟท. ให้รายงานให้ กฟท. ทราบเพื่อพิจารณา และให้นำความในวรรคสองของข้อ ๑๘ มาใช้บังคับโดยอนุโลม 
               
              
อนึ่ง คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในการยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยนโยบายการฟื้นฟูทะเลไทย พ.ศ. 2539 และคณะกรรมการนโยบายและการฟื้นฟูทะเลไทย แล้ว