พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับสถานที่ผลิตปิโตรเลียมในทะเล พ.ศ. 2530
ฉบับเต็ม คลิกที่นี่
(1) กำหนดหรือยกเลิกเขตที่ตั้งและเขตปลอดภัยของสถานที่ผลิตปิโตรเลียมในทะเล (2) กำหนดหรือยกเลิกเขตท่อรวมทั้งอุปกรณ์ของท่อที่ใช้ในกระบวนการผลิตปิโตรเลียม ซึ่งเชื่อมโยงกันระหว่างสถานที่ผลิตปิโตรเลียมในทะเลที่อยู่นอกเขตปลอดภัย การประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ให้พนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีอำนาจสอบสวนคดีอาญาทั้ง ปวงตามวรรคสอง พนักงานสอบสวนท้องที่ใดเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในการสอบสวนให้เป็นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศกำหนด
(1) ความผิดเกี่ยวกับการปกครองตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 136 ถึงมาตรา 146 (2) ความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 209 ถึงมาตรา 216 (3) ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดภยันตรายต่อประชาชนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 217 ถึงมาตรา 226 และมาตรา 231 (4) ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกายตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 288 ถึงมาตรา 290 และมาตรา 295 ถึงมาตรา 298 (5) ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพและชื่อเสียงตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 309 มาตรา 310 มาตรา 313 ถึงมาตรา 315 และมาตรา 322 ถึงมาตรา 324 (6) ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 334 มาตรา 335 มาตรา 336 ถึงมาตรา 339 มาตรา 340 มาตรา 340 ตรี มาตรา 357 ถึงมาตรา 360 มาตรา 362 มาตรา 364 และมาตรา 365
ในการอนุญาตนั้น จะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดด้วยก็ได้ ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่เรือของทางราชการ เรือของผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมในเขตท้องที่นั้น และเรือของผู้รับจ้างซึ่งได้ทำสัญญาจ้างเหมากับผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมใน เขตท้องที่นั้น
ห้ามมิให้ผู้ใดเดินเรือข้ามท่อหรืออุปกรณ์ของท่อตามวรรคหนึ่ง โดยมิได้ชักสมอขึ้นพ้นจากน้ำจนแลเห็นได้ การกระทำผิดตามมาตรานี้ให้ถือว่าได้กระทำในราชอาณาจักร ในการสอบสวนการกระทำความผิดตามมาตรานี้ ให้นำความในมาตรา 6 วรรคสาม มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ในกรณีจำเป็นเพื่อดำเนินการตามวรรคหนึ่งให้เจ้าหน้าที่ทหารเรือมีอำนาจใช้อาวุธประจำเรือหรืออากาศยานบังคับได้
(1) ตรวจและค้นเรือหรืออากาศยาน (2) สอบสวนผู้ควบคุมเรือหรืออากาศยานและบุคคลในเรือหรืออากาศยาน (3) ถ้าการตรวจค้นเรือหรืออากาศยานหรือการสอบสวนมีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการก่อ วินาศกรรม หรือได้มีการก่อวินาศกรรม หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำความผิดตามมาตรา 8 หรือฝ่าฝืนมาตรา 9 หรือมาตรา 10 ให้เจ้าหน้าที่ทหารเรือมีอำนาจควบคุมผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดนั้นไว้เพื่อ สอบสวนตลอดจนยึดเรือหรืออากาศยาน และสิ่งของที่จะใช้หรือได้ใช้ในการกระทำความผิด ห้ามมิให้ควบคุมเรือหรืออากาศยาน ผู้ควบคุมเรือหรืออากาศยานหรือบุคคลในเรือหรืออากาศยาน เกินความจำเป็นตามพฤติการณ์แห่งคดี
เรือรบหรืออากาศยานทหาร หรือเรือหรืออากาศยานที่ทางราชการนำมาใช้ในราชการของรัฐบาลที่มีเครื่องหมาย ชัดแจ้งและได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการทหารเรือหรือผู้ซึ่งผู้บัญชาการทหาร เรือมอบหมายเพื่อการไล่ติดตามเท่านั้นที่จะใช้สิทธิไล่ติดตามได้ การมอบหมายตามวรรคสองจะทำเป็นหนังสือหรือด้วยวาจา หรือจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดก็ได้
(1) การไล่ติดตามจะเริ่มต้นได้ในเมื่อเรือต่างประเทศ หรือเรือเล็กลำใดลำหนึ่งของเรือต่างประเทศ หรือเรืออื่นที่ทำงานร่วมกับเรือต่างประเทศโดยใช้เรือต่างประเทศเป็นเรือพี่ เลี้ยงอยู่ภายในเขตปลอดภัย (2) เรือที่ไล่ติดตามได้ให้สัญญาณหยุดที่เห็นได้ด้วยตา หรือฟังได้ด้วยหูในระยะทางที่เรือต่างประเทศจะสามารถเห็นหรือได้ยินสัญญาณ ได้ แต่ไม่จำเป็นว่าในขณะที่มีคำสั่งให้หยุดเรือที่ออกคำสั่งจะต้องอยู่ภายในเขต ทางทะเลของราชอาณาจักร (3) การไล่ติดตามสามารถกระทำต่อไปได้ถึงภายนอกเขตทางทะเลของราชอาณาจักร ถ้าการไล่ติดตามนั้นมิได้ขาดตอนลง แต่จะต้องสิ้นสุดลงทันทีที่เรือที่ถูกไล่ติดตามนั้นเข้าไปในทะเลอาณาเขตของ ประเทศอื่น
|