ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน พ.ศ. 2547
ฉบับเต็ม คลิกที่นี่
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับนี้มีสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมทางทะเลดังนี้
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน พ.ศ. 2538 ให้เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพในทางปฏิบัติยิ่งขึ้น
ข้อ 3 ให้ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน พ.ศ. 2538
ข้อ 6 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า ”คณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน” เรียกโดยย่อว่า “กปน.” ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นรองประธานกรรมการ อธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เจ้ากรมยุทธการทหารบก เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ เจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ เจ้ากรมอุทกศาสตร์ ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ผู้แทนกรุงเทพมหานคร ผู้แทนการท่าเรือแห่งประเทศไทย ผู้แทนบริษัท กสท โทรคมนาคม จํากัด (มหาชน) นายกสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันหรือผู้แทน เป็นกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีกไม่เกินหกคนซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแต่งตั้งจากผู้มีความรู้หรือความชํานาญเกี่ยวกับนํ้ามัน การเศรษฐกิจ กฎหมาย องค์การระหว่างประเทศ การสื่อสารมวลชน ประชาสัมพันธ์ หรือสิ่งแวดล้อม
ให้อธิบดีกรมการขนส่งทางนํ้าและพาณิชยนาวีเป็นกรรมการและเลขานุการ ผู้แทนกรมการขนส่งทางนํ้าและพาณิชยนาวี และผู้แทนสํานักงานปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
ข้อ 10 ให้ กปน. มีอํานาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
( 1 ) กําหนดนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันและขจัดมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามัน
( 2 ) จัดทําแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามันแห่งชาติ ซึ่งแผนดังกล่าวอย่างน้อยต้องประกอบด้วยเรื่องดังต่อไปนี้
( ก ) การกําหนดหน้าที่ความรับผิดชอบและเขตพื้นที่ในความรับผิดชอบของหน่วยปฏิบัติการ
( ข ) การตรวจสอบและติดตาม กรณีที่มีมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามันเกิดขึ้น
( ค ) การติดต่อสื่อสารและรับแจ้งเหตุ
( ง ) การจัดหากําลังคนและเครื่องมือสนับสนุน
( จ ) การขจัดมลพิษเนื่องจากนํ้ามันในแหล่งนํ้า ชายฝั่ง และขอบฝั่ง
( ฉ ) การขนย้ายคราบนํ้ามันและสิ่งปนเปื้อนนํ้ามัน
( ช ) การดําเนินการฟื้นฟูให้แหล่งนํ้า ชายฝั่ง และขอบฝั่ง มีสภาพเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงกับสภาพเดิมให้ได้มากที่สุด
( ซ ) การประชาสัมพันธ์และแถลงข่าว
( ฌ ) การอื่นที่จําเป็นต่อการดําเนินการป้องกันและขจัดมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามัน
( 3 ) ควบคุม กํากับ ดูแล และรับผิดชอบในการป้องกันและขจัดมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามัน
( 4 ) ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผนป้องกัน รวมทั้งเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ และแถลงข่าวด้านการป้องกันและขจัดมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามัน
( 5 ) กําหนดหลักเกณฑ์ในการประเมินค่าใช้จ่ายในการขจัดคราบนํ้ามันและค่าเสียหายที่เกิดจากมลพิษของนํ้ามัน
( 6 ) ควบคุมการใช้จ่ายเงินที่หน่วยปฏิบัติการที่เป็นหน่วยงานของรัฐได้รับบริจาคตามข้อ 17
( 7 ) เร่งรัดและติดตามผลการดําเนินคดีเกี่ยวกับมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามัน
( 8 ) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติการที่เกี่ยวกับการป้องกันและขจัดมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามัน
ข้อ 11 ให้กรมการขนส่งทางนํ้าและพาณิชยนาวีทําหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงาน โดยมีอํานาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
( 1 ) รับผิดชอบในงานธุรการของ กปน.
( 2 ) รับแจ้งเหตุมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามัน
( 3 ) ประสานงานกับหน่วยปฏิบัติการ ในกรณีที่มีมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามันเกิดขึ้น
( 4 ) จัดทํารายงานการประเมินผลกระทบจากมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามัน
( 5 ) ศึกษา ค้นคว้า วิจัย รวบรวม และแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล และข่าวสารเกี่ยวกับการป้องกันและขจัดมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามัน
( 6 ) ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในการจัดฝึกอบรมเกี่ยวกับการป้องกันและขจัดมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามัน จัดให้มีการฝึกซ้อมการปฏิบัติการ ซักซ้อมความพร้อมเพรียงในการใหความร่วมมือของฝ่ายต่างๆ และจัดทํารายงานผลการดําเนินการดังกล่าวเสนอต่อ กปน.
( 7 ) เบิกจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อทดรองจ่ายสําหรับเป็นค่าใช้จ่ายตามระเบียบนี้ โดยให้เป็นไปตามระเบียบของกระทรวงการคลัง
( 8 ) ปฏิบัติงานอื่นตามที่ กปน. มอบหมาย
( 9 ) ดําเนินการอื่นตามที่กําหนดไว้ในระเบียบนี้ หรือ ที่คณะรัฐมนตรี หรือ นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ข้อ 12 ให้หน่วยปฏิบัติการประกอบหน่วยงานของรัฐและเอกชนดังต่อไปนี้
( 1 ) กองทัพบก
( 2 ) กองทัพเรือ
( 3 ) กองทัพอากาศ
( 4 ) กองศุลกากร
( 5 ) กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย
( 6 ) สํานักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ
( 7 ) สํานักงานปลัดกระทรวงคมนาคม
( 8 ) กรมการขนส่งทางนํ้าและพาณิชยนาวี
( 9 ) กรมการขนส่งทางอากาศ
( 10 ) กรมควบคุมมลพิษ
( 11 ) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
( 12 ) สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
( 13 ) สํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
( 14 ) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
( 15 ) สํานักงานตํารวจแห่งชาติ
( 16 ) การท่าเรือแห่งประเทศไทย
( 17 ) บริษัท กสท โทรคมนาคม จํากัด (มหาชน)
( 18 ) สมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมนํ้ามัน
( 19 ) เอกชนอื่นนอกจาก (18)
ข้อ 14 กรณีมีมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามันเกิดขึ้น ให้หน่วยปฎิบัติการรายงานความคืบหน้าของการปฏิบัติการตามแผนป้องกันให้เลขานุการ กปน. ทราบทุกระยะ เมื่อเลขานุการ กปน. ได้รับรายงานดังกล่าวแล้วให้รีบเสนอต่อ กปน.
เมื่อมีการปฏิบัติการขจัดมลพิษตามวรรคหนึ่งสิ้นสุดลง ให้เลขานุการ กปน. จัดทํารายงานวิเคราะห์สาเหตุของการเกิดมลพิษและการขจัดมลพิษดังกล่าวเสนอ กปน.
ข้อ 15 ให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องให้ความสนับสนุนด้านผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชํานาญการ กําลังคน สถานที่ เครื่องมือ วัสดุ ยานพาหนะ และสิ่งอื่นที่จําเป็นในการปฎิบัติตามแผนป้องกันตามที่ศูนย์ประสานงานร้องขอ
ข้อ 16 ศูนย์ประสานงานอาจขอความร่วมมือและความสนับสนุนจากเอกชนด้านผู้เชี่ยวชาญ ผู้อํานวยการ กําลังคน สถานที่ เครื่องมือ วัสดุ สารเคมี ยานพาหนะ และสิ่งอื่นที่จําเป็นต่อการปฏิบัติการ
ข้อ 17 บรรดาเงินที่มีผู้มอบให้ในการป้องกันและขจัดมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามัน ให้หน่วยปฏิบัติการที่เป็นหน่วยงานของรัฐนําไปใช้เพื่อกิจการตามระเบียบนี้ได้ โดยไม่ต้องนําส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
เงินที่ได้รับชดใช้ความเสียหายอันเนื่องมาจากการก่อให้เกิดมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามัน ให้หน่วยงานของรัฐนําส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
ข้อ 18 ในการจัดหาเครื่องมือ วัสดุ สารเคมี ยานพาหนะ และสิ่งอื่นที่จําเป็นต่อการป้องกันและขจัดมลพิษทางนํ้าเนื่องจากนํ้ามัน ให้หน่วยปฏิบัติการที่เป็นหน่วยงานของรัฐขอตั้งงบประมาณเพื่อการดังกล่าวตามกฏหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ